Friday, 23 September 2011

อันตรายจากผงชูรส (2)

อันตรายจากผงชูรส (2)




 
(ตอนนี้ต่อจากตอนที่แล้ว) ...มาดูกันค่ะว่าสารปลอมปนอะไรที่ใส่กันลงไปในผงชูรส แล้วทำให้มีอันตรายและอาการต่างๆ  อันตรายบางอย่างไม่เกิดทันทีแต่สะสมรอเวลา หากเราซื้อผงชูรสปลอมปนมาปรุงอาหารในบ้านและทานสะสมไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวและแน่นอนอาการเหล่านั้นหลายอย่างเราไม่คาดคิดเลยทีเดียว

สารบางชนิดมีลักษณะใกล้เคียงกับผงชูรส จึงมักนิยมนำมาปลอมปน และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เช่น บอแรกซ์ หรือที่เรียกว่า น้ำประสานทอง มีลักษณะเป็นผลึก เม็ดกลมเล็ก ๆ สีขาว ทึบแสง


บอแรกช์ เป็นสารห้ามใช้ในอาหารหากร่างกายได้รับในปริมาณสูงอาจทำให้เสียชีวิตได้  ได้รับในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง จนเกิดการสะสมในร่างกายจะเกิดอาการเป็นพิษแบบเรื้อรังทำให้เบื่ออาหาร อ่อนแอ สับสน ระบบย่อยอาหารถูกรบกวน ผิวหนังอักเสบ ไตอักเสบ
วัตถุอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลอมปนในผงชูรส คือ โซเดียมเมตาฟอสเฟต สารตัวนี้เป็นผลึกขาวใสวาววับ หัวท้ายมน ปกติใช้เป็นน้ำยาล้างหม้อน้ำรถยนต์ เมื่อรับประทานเข้าไปจะออกฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง ชึ่งอันตรายมาก ดังนั้นบางคนทานอาหารที่ใส่ผงชูรสที่มีสารปนเช่นนี้จึงอาจ อ่อนเพลียและถ่ายท้องทันที แบบที่ meepole เจอมา

ดังนั้นประโยชน์ผงชูรสเพียงแค่เพิ่มความอร่อย แต่มีโทษมหันต์ถ้ากินในปริมาณมากเกินไป (กำหนดไว้ไม่ควรบริโภคเกิน2 ช้อนชาต่อวัน) หรือทานผงชูรสที่มีสารอันตรายเจือปน  ดังนั้นการใช้ผงชูรสในครัวเรือนจึงควรมีการตรวจสอบว่ามีวัตถุอื่นปลอมปนหรือไม่ชึ่งมีวิธีที่สามารถตรวจสอบได้เอง(แบบง่ายๆก็ลอง search หาอ่านได้) และเราก็สามารถใช้ระบบสัมผัสด่านแรกคือ ตา สองตาของเรา (ไม่ไช่แฟนยาย)

การสังเกตผงชูรสด้วยตาเปล่า มีหลักสังเกตดังนี้
ภาชนะที่บรรจุต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ฉีกขาด ไม่เลอะเลือน ฉลากชัดเจน โดยที่ฉลากจะต้องมีข้อความระบุดังนี้
- ชื่ออาหารแสดงคำว่าผงชูรส
- เลขทะเบียนตำรับอาหาร
- ชื่อที่ตั้งของผู้ผลิตอย่างชัดเจน
- เดือน ปี ที่ผลิต
และสังเกตให้ดีว่าผลึกไม่ควรมีความวาวแบบสะท้อนแสง ( อันนี้คงต้องกรณีเราซื้อมาใช้เอง แต่หากทานอาหารนอกบ้านก็เสี่ยงแบบ  meepole แต่ก็ป้องกันได้โดยบอกเขาว่าไม่ใส่ผงชูรสนะจ๊ะ  แต่หากเขาแอบใส่ตามความเคยชิน ก็ตัวใครตัวมัน

นอกจากจะมีอาการข้างต้นแล้ว หากเราทานอาหารที่มีปริมาณผงชูรสมากๆ เป็นประจำย่อมเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนี้

·       ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอดได้
·       ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้
·       ทำให้วิตามินในร่างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี6 ทำให้เป็นโรคผิวหนังได้ง่าย
·       ทำลายสมองส่วนหน้าหรือไฮโปทาลามัส ทำให้การเจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน และเป็นหมัน
·       ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น
·       หากบริโภคมากเกินไปผงชูรสจะไปทำลายสมองส่วนควบคุมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกายทำลายระบบประสาทตา สายตา
·       อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้โดยเฉพาะอาหารที่หมักผงชูรสแล้วนำไปปิ้ง ย่าง
·       ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ถ้าบริโภคมากเกินไปจะ ทำให้ทารกในครรภ์ได้รับผลกระทบจากผงชูรสด้วย จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมของทารกในครรภ์ ทำให้ร่างกายของเด็กเกิดความผิดปกติ ปากแหว่ง แขนขาพิการได้

อันตรายเหล่านี้ไม่ไช่ว่าจะเป็นผลทันที แต่เป็นผลสะสมและที่สำคัญอาจเป็นตัวกระตุ้นส่งผลให้เกิดอาการต่างๆนั้นเร็วกว่าที่ควร ดังนั้นหากงดได้ก็งด ในบ้านก็ไม่ใส่ผงชูรส ส่วนนอกบ้านก็คงต้องสั่งให้งดใส่ บอกว่าเราแพ้ผงชูรส แต่หากเป็นอาหารปรุงสำเร็จแล้วก็อย่างที่บอก.. เสี่ยงดวงเองนะเจ้าคะ

อ้างอิง: http://www.pgjr.alpine.k12.ut.us/science/whitaker/class_activities/crystals.html
                       Kwok RH M. Chinese restaurant syndrome. N Engl J Med 1968;278-96.