by meepole
ผลึกด่างทับทิม
meepole ขอออกตัวก่อนว่าที่เขียนต่อไปนี้ไม่ได้ต้องการ discredit ใคร ไม่ได้จับผิด หรือ..แต่ประการใด แต่ช่วงนี้ติดตามข่าวความเดือดร้อนของคนร่วมชาติด้วยความห่วงใยและไม่สบายใจเช่นกัน อยู่ไกลช่วยอะไรไม่ได้มากนอกจากให้กำลังใจและติดตามศึกษาเรื่องราวต่างๆเก็บเป็นประสบการณ์ไว้หากจะมีภัยเช่นนี้เกิดอีกในถิ่นที่อยู่จะได้ ช่วยผู้อื่นได้ ดังนั้นไม่ว่าโทรทัศน์ช่องใด ใครเชิญใครมาให้ความรู้ก็จะดูและฟังเรียนร่วมรู้ไปด้วย และเชื่อว่ามีคนส่วนมากก็ติดตามเรียนรู้เช่นกัน ดังนั้นการเสนอหรือแนะอะไรที่ไม่ถูกต้อง หรือที่ทำให้เข้าใจผิด เป็นดาบสองคมที่อันตรายมากเพราะในตอนนี้ ที่คนกำลังตื่นกลัว กังวล บอกอะไรเขาก็ทำตามหมด
เมื่อเช้านี้ได้ดูข่าวของ TV ช่อง PBS ที่มีการเชิญหลายๆคนที่มีประสบการณ์ด้านต่างๆออกมาให้ความรู้ เป็นรายการที่ดี ที่ meepole ได้โอกาสเรียนรู้หลายๆเรื่องมาแล้วเช่น คุณบิณฑ์ มาพูดเรื่องภูมิปัญญาชาวบ้านเรื่องคนถูกไฟฟ้าดูด จะลดประจุก่อนทำอย่างไร และมีเรื่องการทดสอบไฟรั่ว การประดิษฐ์ของใช้ต่างๆสำหรับชีวิตมากมาย โภชนาการในยามนี้ที่ไม่มีไฟฟ้า หรือยามที่ต้องเก็บอาหารให้กินได้นานๆ ก็เก็บสาระไว้
แต่เช้านี้มีการเชิญรองคณบดี (ดร.)ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาพูดเรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้(ไม่ได้ตามตอนต้น) แต่ช่วงที่เปิดพบว่ากำลังพูดเรื่องชุดของที่จะแจกให้ชาวบ้านใช้จัดการกับน้ำดื่ม น้ำใช้ ที่ไม่สะอาดในช่วงนี้ และในชุดนั้นก็มีสารส้ม ที่จะช่วยตกตะกอนสิ่งที่แขวนลอยในน้ำ พร้อมกับสาธิตใช้ชุดที่มีขวดของเหลวที่เรียกชื่อว่าหยดทิพย์ ซึ่งเป็นสารละลายคลอรีน 2 % ที่ใช้หยดลงไปในน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อ ก็บอกให้ใช้ 2 หยด มีหลายอย่างที่พูดแปลกๆ แม้จะไม่ถูกต้องบ้างก็ไม่ serious ฟังไปเรื่อยๆแล้วก็บอกคนที่บ้าน meepole ว่าตรงนี้ไม่ไช่ ตรงนี้ไม่ถูก ที่ถูกเป็นอย่างไร กลัวเข้าใจผิด พอดีมีแม่บ้านโทรเข้าในรายการ ถามเรื่องด่างทับทิม ที่เขามีอยู่ว่าจะใช้ฆ่าเชื้อได้ไหม ใช้อย่างไร ใช้แค่ไหนจึงพอ เพราะเธอไม่มีคลอรีน อาจารย์ท่านนี้อธิบายว่าใส่ 2 หยด เธอก็บอกว่าด่างทับทิมเธอเป็นผง (จริงๆเป็นผลึก) ดร.ท่านนี้บอกว่าให้เอาไปละลายน้ำก่อนใช้ แล้วเก็บไว้ เวลาใช้ก็บีบใส่ 2 หยด (ตรงนี้ไม่ถูกนักค่ะ) และมาถึงตรงนี้พิธีกรถามว่าแล้วใช้น้ำยาอุทัยที่เป็นสีชมพูแบบนั้นจะเหมือนกันไหม ได้ไหม ตอนนี้ดร.ท่านนี้บอกว่าเหมือนกัน หรือว่าไช่ ?? และจากนั้นพิธีกรถามในลักษณะที่มีคำตอบที่ทำให้เข้าใจว่าน้ำยาอุทัยกับเจ้าด่างทับทิมที่ละลายน้ำแล้วเป็นสีชมพูนั้นมีผลฆ่าเชื้อใช้แทนได้ และฟังต่ออาจเข้าใจผิดคิดต่อได้ว่ามันคือส่วนผสมที่คล้ายกัน (หากใครสามารถ replay เทปนี้ให้ลองเปิดดูและฟังใหม่) ตรงนี้ ทำให้ meepole รู้สึก serious เพราะความเข้าใจผิดตรงนี้ มีผลต่อสุขภาพและถึงแก่ชีวิตได้
จึงต้องเขียนหัวข้อนี้ขึ้นมาเพื่อใครที่ได้ฟัง และเข้าใจผิดจะได้เข้าใจใหม่และอยากให้บอกต่อๆให้เข้าใจด้วย ว่าด่างทับทิม ไม่ใช่น้ำยาอุทัยทิพย์ และน้ำยาอุทัยทิพย์ไม่มีส่วนผสมของด่างทับทิม แม้ว่าจะมีสีชมพูอมม่วงเมื่อใส่ในน้ำ และวัตถุประสงค์การใส่ และคุณสมบัติของ2 สิ่งนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่องน้ำยาอุทัยทิพย์ meepole ได้ค้นมาให้ไว้ดังนี้
"อุทัยทิพย์" เป็นสมุนไพรไทยที่สกัดจากพฤกษาธรรมชาติ 32 ชนิด อันได้แก่ ฝาง, ดอกคำฝอย, หญ้าฝรั่น, มะลิ, พิกุล, บุนนาค, บัวหลวง เป็นต้น ซึ่งนับเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่สร้างไว้จากอดีต...สู่ปัจจุบัน สีของอุทัยทิพย์ที่มีสีแดงสกัดมาจากสีของไม้ฝางซึ่งเป็นสีที่มาจากธรรมชาติ แล้วยังมีสรรพคุณในการบำรุงเลือด บำรุงหัวใจอีกด้วย.
http://www.utaitip.com/history-th.html
จัดเป็นสารอันตรายตัวหนึ่ง มีลักษณะเป็นเกล็ดหรือผลึกแข็ง สีม่วง สามารถละลายได้ในน้ำ ให้สีชมพูหรือม่วงเข้ม ขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้น มีการนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้เป็นสารฟอกขาวเส้นใยสิ่งทอ ใช้ย้อมสีไม้และผ้า และใช้ เป็นยาฆ่าเชื้อโรค ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา โดยผสมลงในน้ำเพื่อใช้ฆ่า เชื้อ และมีนำมาใช้ในครัวเรือนโดยนำมาใช้ในการล้างผัก ผลไม้
แต่การใช้ต้องระวังอย่าให้เข้าตา (อาจระคายเคืองรุนแรงหรือบอดได้ ) โดนผิวหนัง (ห้ามใช้มือหยิบเกล็ดหรือผลึกขึ้นมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมือชื้นหรือเปียก) หลีกเลี่ยงการได้รับสารเป็นเวลานานหรือซ้ำหลายครั้ง
แม้ว่าด่างทับทิมจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากใช้ได้ไม่ถูกต้องอาจทำ ให้เกิดอันตรายหรือเป็นพิษต่อร่างกายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นผู้ใช้จะต้องใช้อย่างเข้าใจ และระมัดระวัง ผลข้างเคียงจากการใช้ด่างทับทิมมีหลายประการ และอันตรายถึงชีวิตทีเดียว
จึงขอเตือน และยืนยันว่าน้ำยาอุทัยทิพย์ ไม่ใช่ด่างทับทิม และใช้แทนกันไม่ได้ ห้ามดื่มน้ำด่างทับทิม และน้ำยาอุทัย ก็ไม่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ ดังนั้นหากจะดื่มน้ำในช่วงนี้โดยการเติมด่างทับทิม อันตรายนะคะ
http://www.chemtrack.org/MSDSSG/Trf/msdst/msdst7722-64-7.html
อ่านรายละเอียดของ ด่างทับทิม อันตราย และการใช้ให้ปลอดภัยได้เร็วๆนี้ค่ะ
อ่านต่อ http://meepole.blogspot.com/2011/10/blog-post_28.html
อ่านต่อ http://meepole.blogspot.com/2011/10/blog-post_28.html