Sunday, 27 November 2011

น้ำท่วม: การเลือกน้ำดื่มบรรจุขวดให้เสี่ยงอันตรายน้อยที่สุด (1)

by meepole

จากปัญหาของน้ำประปาที่คุณภาพไม่น่าไว้ใจในช่วงน้ำท่วม เช่น มีสี  มีกลิ่น ขุ่น ทำให้หลายๆคนไม่สบายใจที่จะดื่มหรือนำไปใช้ ซึ่งวิธีแก้หรือเลี่ยงปัญหาดังกล่าวก็มีคำแนะนำมากมาย บางคนที่มีเงินก็สามารถซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดมาดื่ม  หลายครอบครัวช่วงนี้ก็ซื้อตุนไว้มากมาย บางคนได้รับบริจาคก็อาจสะสมไว้ทานจนกว่าน้ำจะลด บางคนอาจตั้งใจดื่มน้ำบรรจุขวดหรือถังลิตรไปตลอดเลย ดังนั้นการพิจารณาเลือกน้ำดื่มบรรจุขวดจึงมีความจำเป็น เพราะจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ...ไม่ว่าคุณจะคิดหรือปฏิบัติอย่างไร ลองอ่านข้อเขียนที่ meepole รวบรวมเรียบเรียง ด้วยความตั้งใจและปรารถนาดีแล้วตัดสินใจกันดูนะคะ

ร่างกายคนเราต้องการน้ำไปเพื่ออะไร
  • เพื่อรักษาความสมดุลต่างๆของร่างกาย
  • เพื่อใช้ในปฏิกิริยาและกระบวนการต่างๆ
  • เพื่อชำระของเสียส่วนเกินออกไปจากร่างกาย
  • เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง

น้ำดื่มบรรจุขวดที่วางขายกันตามท้องตลาดมีมากมายหลากหลายยี่ห้อ  ภาชนะที่ใช้บรรจุก็เป็นพลาสติกที่แตกต่างกัน และน้ำก็ผลิตด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกันอีกหลายตัวเลือกไม่รวมสารพัดน้ำแร่ ที่ไม่รู้แร่แท้หรือเทียม (แต่อยู่นอกเหนือหัวข้อที่จะเขียนตอนนี้) ดังนั้นการเลือกดื่มน้ำดื่มบรรจุขวดหรือถังก็ตามจึงควรคิดพิจารณาให้ดีเช่นกัน เพราะเราต้องดื่มน้ำกันทุกวัน มีข้อให้ค่อยๆนำไปประกอบการตัดสินใจโดยmeepole จะเขียนประมาณ 3-4 ตอน

ข้อควรพิจารณาในการเลือกน้ำดื่มบรรจุขวดให้เสี่ยงอันตรายน้อยที่สุด

เลือกอย่างไรให้อันตรายน้อยที่สุด
1. เลือกภาชนะที่ใช้บรรจุ

ปัจจุบันภาชนะที่นิยมใช้บรรจุน้ำดื่มมี  4 ชนิด คือ
1. ขวดแก้วใส
2. ขวดพลาสติกโพลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP) เป็นพลาสติกที่แข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมี ความร้อนได้ ส่วนใหญ่นิยมนำมาทำภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้า หรือกระบอกสำหรับใส่น้ำแช่เย็น ถังน้ำแบบขาวขุ่นความจุประมาณ 20 ลิตร

3. ขวดพลาสติกเพท (Polyethylene terephthalate, PET) มีลักษณะใสและกรอบ และเนื่องจาก PET มีสมบัติป้องกันการแพร่ผ่านของก๊าซได้ดีกว่าพลาสติกทั่วไปและทนต่ออุณหภูมิได้ช่วง 70 ถึง 100 องศาเซลเซียส มักนำไปใช้เป็นขวดบรรจุน้ำอัดลม น้ำดื่ม น้ำมัน น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำยาบ้วนปาก กล่องขนม เป็นต้น

4.พลาสติกชนิด PC (พอลิคาร์บอเนต) เป็นพลาสติกที่มีลักษณะใส แข็ง และทนความร้อน ใช้ทำผลิตภัณฑ์หลายชนิดเช่น แผ่นหลังคา ขวดนมเด็ก ขวดน้ำ (ขวดบรรจุน้ำขวดใสแข็ง สีฟ้าอ่อน หรือสีเขียวอ่อน) ภาชนะบรรจุอาหารที่สามารถเก็บในตู้เย็นและนำเข้าไมโครเวฟได้ด้วย เป็นต้น

ตัวนี้ค่อนข้างอันตรายต่อผู้บริโภค ที่meepole อยากจะให้ผู้อ่านทราบคือ มีการศึกษาพบว่าขวดน้ำดื่มที่ทำจากโพลีคาร์บอเนตจะแพร่สารบิสฟีนอล เอ ออกมามากกว่าปกติถึง 55 เท่าเมื่อใส่น้ำร้อน แล้วสารนี้ส่งผลอย่างไร ลองอ่านเรื่องสั้นในกรอบนี้ดูค่ะ


การดื่มน้ำจากขวดพลาสติก (PC) จะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดยไม่รู้ตัว 
"จากการศึกษาพบว่าขวดน้ำดื่มที่ทำจากโพลีคาร์บอเนตจะแพร่สารบิสฟีนอล เอ ออกมามากกว่าปกติถึง 55 เท่าเมื่อใส่น้ำร้อนไม่ว่าจะเป็นขวดเก่าหรือขวดใหม่ก็ตาม เพราะในบรรจุภัณฑ์พลาสติกทุกชนิดรวมทั้งขวดนมทารก จะมีสารบิสฟีนอล เอ ปนเปื้อนอยู่ การศึกษาโดย US FDA ในสภาพการใช้งานปกติพบว่ามีการแพร่ของบีสฟีนอล เอ จากขวดน้ำขนาด 5 แกลลอนเข้าไปในน้ำที่เก็บไว้ 39 สัปดาห์ อยู่ในช่วง 0.1 4.7 ส่วนในพันล้านส่วน การดื่มน้ำจากขวดพลาสติกจะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง"

 เรื่องนี้ก็น่าคำนึงมากสำหรับทารกเพศชาย แต่ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกมากเกินเหตุ เพราะที่ทานก็ทานกันไปแล้วเป็นกันไปมากแล้ว เอาที่กำลังจะทานก็หลีกเลี่ยงไม่ใช้ก็แล้วกัน เพราะอะไรๆมันเกิดเพราะเราทานกันมากและนานต่อเนื่องนั่นเอง

(อันนี้อ้างอิงมาจากหนังสือที่ meepole เขียนขึ้น มีสนพ.ซื้อลิขสิทธิ์ไปพิมพ์แล้ว แต่ไม่ขอปชส.ในนี้เพราะไม่ได้ตั้งเป้าจะขายหนังสือในบล็อกเจ้าค่ะ)


การเลือกซื้อน้ำจากขวดใสก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ความใสของภาชนะทำให้เห็นน้ำดื่มได้ชัดเจน ซึ่งความใสและความขุ่นของน้ำดื่มก็เป็นดัชนีบ่งชี้ความสะอาด ความปลอดภัยของน้ำดื่ม ที่ผู้บริโภคจะสังเกตได้ง่ายที่สุดในการเลือกซื้อ

ในปัจจุบัน ผู้บริโภคที่เป็นร้านอาหาร และครอบครัวที่ดื่มน้ำกันมากๆมักนิยมซื้อน้ำบรรจุถังขนาด 20 ลิตร เพื่อบริโภคในครัวเรือนกันมากยิ่งขึ้น ต้องระวังในเรื่องความสะอาด ปลอดภัยของภาชนะที่ใช้บรรจุ รวมทั้งการเลือกซื้อน้ำดื่มบรรจุถังอย่างไรให้ปลอดภัย ควรดูฝา ตรวจถังพลาสติกว่าไม่สกปรก ไม่มีรอยขีดข่วนมากนัก ก้นถังสะอาด ตัวถังพลาสติกไม่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองเป็นต้น

เมื่อทราบชนิด ประเภทของภาชนะบรรจุและข้อมูลแล้ว คงพอตัดสินใจได้ในระดับหนึ่งแล้วนะคะ

แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขมีข้อกำหนดตามกฎหมายเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอาหารประเภทพลาสติก คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 295) พ.ศ.2548 เรื่อง กำหนดคุณภาพมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกไว้แล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้เราควรระมัดระวังเอาใจใส่ด้วยตัวของเราเองจะดีกว่า เพราะชีวิตเป็นของเรา

คราวหน้ามาต่อข้อ 2 ค่ะ