Saturday 25 February 2012

รู้หรือไม่ว่า..อันตราย!!

ที่มาภาพ : imagesante.be

  • ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาได้รณรงค์เพื่อยกเลิกการใช้น้ำยาซักผ้าขาว เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มของมะเร็งเต้านมในผู้หญิง การลดลงของสเปิร์มในผู้ชาย และความผิดปกติในการเรียนรู้และพฤติกรรมในเด็ก
  • สมาคมโรคปอดและโรคหอบหืดของแคนาดาพบว่า สารเคมีที่ใช้ความสะอาดภายในบ้านและเครื่องสำอางเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญของโรคหอบหืด
  • น้ำยาล้างเล็บส่วนใหญ่มี อะซีโตน หรือ เอธิลอะซีเตท เป็นตัวทำละลายตัวอื่นอีก เมื่อกินเข้าไป อะซีโตนจะถูกดูดซึมจากกระเพาะและเยื่อเมือก ทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่ อาเจียนและการกดระบบประสาท
  • เรารู้หรือไม่ว่าน้ำยาทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ที่ใช้เกี่ยวกับร่างกาย สารพิษที่ออกมาในอากาศในรูปของไอหรือละออง ที่เราใช้กันอยู่นั้น เด็กๆ มีโอกาสรับเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากสารพิษพวกนี้จะมีน้ำหนักมากและลอยอยู่ใกล้พื้นมากกว่า
  • ตัวทำละลาย เช่น Formaldehyde, phenol, benzene, toluene และ xylene พบในสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดภายในบ้าน เครื่องสำอาง เครื่องดื่มที่มีสีผสม ผ้าที่มีน้ำยารักษาผ้าหรือน้ำยาทำความสะอาด และ ควันบุหรี่ ทำให้เกิดมะเร็งและเป็นพิษต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  •  น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกบางชนิดจะมีสารเคมี ได้แก่ แนฟธา (naphta) ซึ่งกดระบบประสาท สารไดเอธาโนลามีน (diethanolamine) มีอันตรายต่อตับ
  • ข้อมูลที่ได้จากประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าสารเคมีที่อยู่ในบ้านกว่า 150 ชนิด ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ความพิการของเด็กเมื่อคลอดออกมา รวมถึงโรคมะเร็ง และสุขภาพจิตผิดปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการได้รับสารพิษพวกนี้สะสมเข้าไป
จริงอยู่สารเคมีทุกชนิดเป็นอันตราย แต่ถ้าเราใช้ให้ถูกขนาด ถูกวิธี ก็จะลดอันตรายเหล่านั้น และสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องสารเคมีอันตรายที่มีในผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสามารถเลือกใช้ให้ปลอดภัยมากที่สุด แต่วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ ถ้าไม่จำเป็น หรือเลือกใช้สารที่ปลอดภัยกว่าทดแทน (ปัญหาคือ ถ้าไม่ไช่นักเคมี หรือนักวิทย์ฯจะรู้ได้ยังไงว่าสารตัวไหนอันตราย..อันนี้ไม่ยากสงสัยอะไร คนไทยเข้าที่นี่เลยค่ะ 
ศูนย์ความรู้เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี http://www.chemtrack.org/   meepole ก็ใช้บริการที่นี่ประจำค่ะ:)