โลกศิวิไลซ์...โรคศิวิไลซ์ !!!...ภัยเงียบ
(ต่อ).......ลองสังเกตุตัวเองดูบ้างว่าเริ่มมีอาการคันจมูก คันตา จามบ่อย แน่นจมูก และเมื่อตื่นนอนขึ้นมาจะมีอาการระคายคอ แห้งมาก ไอ หรือไม่ หากมีก็เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นว่าคุณอาจกำลังเป็นโรคภูมิแพ้ จากเครื่องปรับอากาศ
เพราะหากคุณปรับเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส และประตูหน้าต่างปิดมิดชิดไม่มีอากาศถ่ายเท ก็จะ เสี่ยงโรคทางเดินหายใจ เพราะคุณกำลังอยู่ในห้องที่อากาศเย็นและแห้ง
nอากาศเย็นและแห้งทำให้เซลล์ในโพรงจมูกแห้งลง ทำให้ไม่มีเมือก ที่จะป้องกันเซลล์จากเชื้อโรค เชื้อโรคเลยสัมผัสกับเซลล์ได้โดยตรง ยิ่งอากาศที่แห้งมาก เช่น อากาศในฤดูหนาว อาจทำให้เยื่อบุในโพรงจมูกแห้ง น้ำมูกหรือเสมหะแข็งเป็นคราบ กรณีนี้ถ้ามีอะไรไปเขี่ยหรือสะกิดเข้า เช่น การแคะรูจมูก การถูจมูกแรงๆ ฯลฯ อาจมีการถลอกและเลือดออกได้ และหากยิ่งมือสกปรก ไม่สะอาดก็เป็นทางติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
nนอกจากนี้ขณะที่อากาศเย็น ๆ เชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดี แต่เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคในร่างกายทำงานได้ลดลง ส่งผลให้หน้าหนาวมีคนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ เช่น หวัด ภูมิแพ้ ฯลฯ มากขึ้น และทำให้เกิดโรคติดต่อหลายโรค เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด หัดเยอรมัน ฯลฯ
ดังนั้นการอยู่ในห้องแอร์ที่แออัดไปด้วยคนทำงาน ไม่มีอากาศถ่ายเท ที่ดีพอ ตลอดจนการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น การสูบบุหรี่ การปรุงอาหาร การฉีดสเปรย์ต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้และโรคทางเดินหายใจอื่นๆได้
ดังนั้นต้องระวัง ไม่ให้ทางเดินหายใจแห้ง ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายง่ายนัก โดยการล้างมือให้สะอาดสม่ำเสมอ ไม่แคะ แกะ จับบริเวณหน้า จมูก ปาก โดยที่ยังไม่ได้ล้างมือ ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท อยู่ห่างจากผู้ที่เป็นหวัด หากอากาศแห้งมากก็ต้องดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ วางแก้วน้ำไว้ใกล้ ๆ ตัวในห้องนอน ห้องนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน และต้องไม่ลืมว่าในแต่ละปีควรล้างเครื่องปรับอากาศแบบเต็มระบบ จะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง เชื้อโรคที่เกาะติดอยู่กับส่วนต่างๆ ของเครื่อง และที่ลอยอยู่ในอากาศภายในห้องทิ้งออกไป และที่สำคัญเหนืออื่นใด แต่ละวันต้องเดินออกมาหาที่สูดอากาศบริสุทธิ์บ้างอย่าติดอยู่แต่ห้องแอร์ตลอดเวลา เพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่พึงปรารถนา
ที่มาภาพ: medicarezine.com