by meepole
ยาสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
เพราะขึ้นชื่อว่าสมุนไพร หลาย ๆ คนก็มักจะเชื่อว่ามีแต่ประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น
เพราะมีสรรพคุณดี ๆ หลายอย่าง แถมยังมาจากธรรมชาติล้วน ๆ อีกด้วย แต่ความจริงก็คือไม่ว่าอะไรถ้ามากเกินไปหรือไม่ถูกโรคก็ให้โทษกับร่างกายได้เหมือนกัน
เป็นดาบสองคม มีคุณอนันต์ก็มีโทษมหันต์ได้เช่นกัน รวมไปถึงพวกสมุนไพรด้วย
1.
ตัวเรามีความจำเป็นอย่างไรจึงต้องกินสมุนไพรชนิดนั้นๆ
อย่ากินตามที่ขาบอกว่ากินแล้วอะไรๆก็จะดี เพราะสมุนไพรทุกชนิดไม่ไช่ยาครอบจักรวาล ควรศึกษาให้ดีด้วยว่าเหมาะในการรักษาหรือป้องกันโรคแบบไหน
2. ร่างกายเรามีโรคประจำตัวอะไรที่ไม่เหมาะกับสมุนไพรชนิดนั้นๆหรือไม่
หากใช้ไม่ถูกเรื่องแทนที่จะรักษาโรคหนึ่งๆ กลับไปทำให้เกิดโทษกับอวัยวะอื่นๆ จึงต้องศึกษาผลข้างเคียงของสมุนไพรนั้นๆด้วย
ยกตัวอย่างกรณีศึกษา
ผู้ป่วยเบาหวานรายหนึ่งเล่าว่ากินยาเบาหวานมาหลายปี
ก็ไม่เคยมีปัญหาแทรกซ้อนรุนแรง
ต่อมาทราบจากคำเล่าลือว่ามะรุมสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ จึงซื้อมะรุมชนิดเม็ดกินเสริมไปวันละ
๒ ครั้งๆ ละ ๒ เม็ด พอกินไปได้ ๑๐ กว่าวัน ก็เกิดอาการเป็นลม หน้ามืด
ไม่ค่อยรู้สึกตัว ญาติพาส่งโรงพยาบาล
แพทย์ตรวจพบว่าผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกิน
สันนิษฐานว่าอาจเป็นไปได้ที่มะรุมมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด จึงเสริมฤทธิ์ยาเบาหวานที่กินอยู่เดิมจนน้ำตาลในเลือดลดต่ำถึงขั้นอันตรายได้
สมุนไพรที่มีการยืนยันทางวิชาการว่ามีพิษต่อตับ
ทำให้ตับอักเสบอีกชนิดหนึ่ง ก็คือ บอระเพ็ด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด
เมื่อทดลองให้ผู้ป่วยเบาหวานกินทุกวันก็พบว่าทำให้ตับอักเสบได้
เคยมีการนิยมนำขี้เหล็กมาต้ม
แล้วน้ำที่ต้มมาดื่มแทนน้ำเปล่าด้วยเชื่อว่าเป็นยาบำรุง พอดื่มไปได้ ๒-๓
เดือนก็เกิดอาการดีซ่าน
ไปพบแพทย์ก็ตรวจยืนยันว่าเป็นตับอักเสบจากการดื่มน้ำขี้เหล็กต้มเช่นเดียวกัน
4.
ควรศึกษาคุณและโทษของสมุนไพรนั้นๆ
ไม่ว่าอะไรก็ตามในโลกนี้มีคุณก็มีโทษได้ การใช้ไม่ถูกวิธี การปรุงที่ผิดกรรมวิธี
ย่อมส่งผลอันตรายหรือไม่เกิดประโยชน์อันใด
เมื่อ 20-30 ปีก่อน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท่านหนึ่ง มีเจตนาดีในการรณรงค์ปราบโรคพยาธิปากขอ โดยนำมะเกลือมาปรุงเป็นยาเป็นปริมาณหม้อใหญ่ๆ
ซึ่งต้องเตรียมทิ้งไว้ค้างคืน
โบราณจะเตรียมมะเกลือในปริมาณเล็กน้อย
สำหรับแต่ละคนเท่านั้น และเมื่อเตรียมเสร็จก็ให้กินสดๆ ทันที
ซึ่งก็ได้ผลในการรักษาโรคพยาธิปากขอ และไม่ได้เกิดผลข้างเคียงอะไร
วันรุ่งขึ้นก็แจกจ่ายให้เด็กๆ ตามหมู่บ้านกินกันถ้วนหน้า
คราวนั้นเกิดผลที่ตามมา คือ มีเด็กๆ หลายคนตามัวตาบอด
เนื่องจากได้รับพิษภัยจากสารเคมีในมะเกลือที่กลายรูป
เนื่องจากการตั้งทิ้งไว้ค้างคืน เพราะการเปลี่ยนมาเตรียมครั้งเดียวปริมาณมากๆ
และทิ้งไว้ข้ามคืน สารเคมีในมะเกลือก็เกิดการกลายรูปเป็นสารใหม่
ซึ่งสามารถทำลายประสาทตาจนทำให้ตามัวตาบอด
5.
หากกินสมุนไพรที่ผลิตขึ้น บรรจุในบรรจุภัณฑ์ ให้อ่านฉลากให้ดีก่อน
ว่าผลิตจากแหล่งใด หมดอายุเมื่อใด สรรพคุณอย่างไร
มีการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือไม่
6.
หากเป็นลูกกลอน ผง แคปซูล เมื่อเปิดใช้แล้วต้องเก็บในที่แห้ง
ระวังความชื้น ที่ทำให้ขึ้นราได้ หากสงสัยว่าจะขึ้นราก็ไม่ควรกินเพราะ เกิดโทษอันตรายมากกว่า