เตือนอันตราย..เมื่อน้ำมันพืชแพง 1
เมื่อของแพงขึ้น ผู้ผลิต ผู้ขาย ที่ไม่มีมนุษยธรรม ติดแต่แสวงหากำไรอย่างเดียว ก็มักจะมีวิธีการต่างๆที่จะลดต้นทุน แม้ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคก็ตาม เราก็คงต้องระมัดระวังศึกษาข้อมูลแล้วก็เตือนต่อๆกัน ก็จะช่วยสังคมได้
by.. meepole
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้แวะไปซื้อน้ำมันประกอบอาหาร ด้วยความใจเย็น ทั้งๆที่มีข่าวน้ำมันปาล์มขาดตลาดก็ไม่ได้รีบซื้อ เพราะว่าปกติไม่ได้ใช้น้ำมันปาล์ม จะใช้น้ำมันข้าวโพดและน้ำมันมันมะกอกเป็นหลัก คิดว่าสองอย่างนี้คงไม่ขาดตลาดแน่ ปรากฎว่างานนี้คิดถูกครึ่งเดียวคือยังคงมีน้ำมันมะกอก แต่ไม่มีน้ำมันข้าวโพด และที่แปลกใจมากคือไม่มีน้ำมันปาล์มถั่วเหลือง และทานตะวัน อยู่เลยแม้แต่ขวดเดียว เห็นน้ำมันรำข้าวประมาณไม่เกิน 10 ขวด ราคาขวดละ 84 บาท
ขณะยืนมองด้วยความทึ่งเพราะทราบข่าวมาก่อนนี้ว่าจะมีการเอาน้ำมันปาล์มจุกสีชมพูมาวางขายแล้ว แต่ก็ไม่ทันเห็นจนได้ ได้ยินเสียงคนที่เดินมาเพื่อซื้อน้ำมันก็อุทานเหมือนๆกันคือ "น้ำมันหมดหิ้งเลย" แล้วก็เดินผ่านไป เพราะจะให้ซื้อน้ำมันที่ขวดละเกือบร้อย และเกินร้อย สำหรับครอบครัวใหญ่คงไม่ไหว วันนั้นเลยได้น้ำมันมะกอกมาไว้ 2 ขวด ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ออกไปตลาดเพื่อดูว่ามีน้ำมันวางขายปกติหรือยัง
ภาพจาก business-standard.com
เรื่องของเรื่องที่มาเขียนนี่ก็เพราะ เมื่อสองวันที่แล้วเพื่อนอาจารย์แวะซื้อกล้วยทอดถุงใหญ่มานั่งทานกันช่วงเที่ยง พอเทใส่จานมาวาง meepole สังเกตเห็นว่ากล้วยทอดเปียกแวว เหมือนอมน้ำมันมาก ยังไม่ทันพูดอะไรเขาก็หยิบกินกัน ก็เลยถามว่า ไม่รู้สึกว่าน้ำมันมากไปหน่อยหรือไง
เสียงตอบจากหลายคน "กลัวอ้วนเหรอพี่"
บอก "เปล่า กลัวน้ำมันเก่ามาทอด"
"ไม่เก่าหรอก ยืนดูเห็นน้ำมันไม่ดำนะ ยังเหลืองๆเลย"
งั้นพูดใหม่ "กลัวเขาเอาน้ำมันถุงฟอกสีแล้วมาใช้"
ทุกคนทานต่อ ยกเว้น meepole บ่ายแยกย้ายกันไป
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากครูชอบเถียง...
"พี่ๆ หิวน้ำบ่อยมาก อืดๆด้วย สงสัยกล้วยทอดแน่เลย"
"อ้าวทำไมสงสัยล่ะ ไม่ออกอาการเร็วขนาดนั้นหรอก"
"ไช่แน่พี่ เพราะหนูทานมากสุดเลย เหลือท้ายสุดหลายชิ้น หนูทานคนเดียวหมดเลย (มิน่าล่ะอ้วนกว่าเพื่อนเลย) ทำไงดีคะ"
ตอนติงไม่เชื่อ ตอนรู้สึกไม่ค่อยดี แล้วขอให้ช่วยทุกที ..บ่น แต่ก็บอกวิธีแก้ให้ไป ก็คงดีขึ้นไม่งั้นรายนี้โทรซ้ำแน่
ก็เลยคิดๆว่าก็น่าจะลองเขียนเตือนๆ บอกต่อ เผื่อใครหลายๆคนที่อาจคิดไม่ถึง ถ้าคิดเลยไปแล้วไม่เป็นไร.. ดีค่ะ :) :)
เรื่องที่เกิด
น้ำมันปาล์มขาดแคลน -น้ำมันถั่วเหลืองขอขึ้นราคาอีก อ้างเมล็ดถั่วราคาพุ่ง
ผลก็คือ น้ำมันพืชในท้องตลาด หลายยี่ห้อไม่มีวางบนหิ้ง เพราะขายดีมาก หมดในเวลาอันรวดเร็วมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกรายการ แถมหลายๆยี่ห้อจำกัดปริมาณการซื้อ
ข้อดีของการที่น้ำมันแพงก็มี คือ น้ำมันปาล์มโอเลอิน จะประกอบไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว ผสมอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดสูง ดังนั้นเมื่อแพงก็ช่วยลดการทานน้ำมันลง เลยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจได้
ปัญหา
เมื่อของแพงขึ้น ผู้ผลิต ผู้ขาย ที่ไม่มีมนุษยธรรม ติดแต่แสวงหากำไรอย่างเดียว ก็มักจะมีวิธีการต่างๆที่จะลดต้นทุน แม้ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคก็ตาม เราก็คงต้องระมัดระวังศึกษาข้อมูลแล้วก็เตือนต่อๆกัน ก็จะช่วยสังคมได้
แม่ค้าที่ต้องใช้น้ำมันพืชปรุงอาหารจำพวกทอด อาจมีการนำน้ำมันที่ใช้แล้วมาใช้อีกและที่นำมาผัดอาหารก็อาจจะใช้น้ำมันเก่าที่ผ่านการนำไปทำให้ใสโดยการฟอกสี โดยแม่ค้าเองก็อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อันนี้เราเองในฐานะผู้บริโภคก็ไม่อาจทราบได้ว่าน้ำมันที่เขาใช้ผัด หรือประกอบอาหารนั้นเป็นประเภทใด นอกจากถามแล้วอาจได้ความจริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ดังนั้นช่วงนี้หากปรุงอาหารเองได้ก็น่าจะทำเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็คงต้องเลือกร้าน และสังเกตุราคา หรือไม่ก็เลี่ยงอาหารที่ต้องปรุงด้วยน้ำมันมาก หรือของทอด
รู้ได้อย่างไรว่าน้ำมันนั้นอันตราย ไม่ควรนำมาบริโภค
หากเราไปซื้อน้ำมันที่ขายเป็นถุงมา หรือแม้กระทั่งน้ำมันที่เราจะใช้ซ้ำในครัวของบ้านเราเอง คงต้องรู้จักสังเกต ว่าเวลาใช้ หรือบริโภค ว่ามีลักษณะต่อไปนี้หรือไม่
น้ำมันมีกลิ่นเหม็นหืน ใช้สักครู่มีฟองมาก (กรณีทอดอาหาร) เหม็นไหม้ เวลาทอดมีควันขึ้นมาก อันนี้แสดงว่าน้ำมันนั้นถูกใช้มานาน หรือใช้มาหลายครั้ง หรือใช้ทอดมากจนเกินจุดแล้ว ทำให้น้ำมันเกิดควันที่อุณหภูมิต่ำลง
อาหารที่ทอดเสร็จแล้วอมน้ำมันมาก (เหมือนข้างต้นที่ได้เตือนไป) และหลังการบริโภคเกิดการระคายคอ หิวน้ำมาก
หากไปซื้อของทอดเช่น ปาท่องโก๋ เต้าหู้ ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด ทอดมัน ข้าวเกรียบ และ กล้วย/มัน/เผือกทอด อาหารทอดอื่นๆ ก็ควรสังเกตสีของน้ำมัน ความหนืดของน้ำมัน
และถ้าเราไม่เห็นเพราะคนซื้อมาฝาก ก็ควรสังเกตสี ความมันแบบเปียกๆ และรสชาติ ของอาหารด้วย ถ้าสีเข้ม (ไม่ไช่เกรียม) รสขมๆ ทานแล้วสักครู่รู้สึกเหมือนมีน้ำมันติดในคอ เพดานปากตลอด แสดงว่าต่อไปควรระมัดระวังร้านนั้นหน่อย
อ้อ! แล้วควรหยุดทานของนั้นเลย อย่าไปเสียดาย ค่าขนม 20 ค่ายาเกิน 100
อันนี้ meepole เคยลองทานข้าวเกรียบทางใต้ที่ทอดขายสำเร็จใส่ถุงพร้อมน้ำจิ้ม ทานได้คำเดียวต้องหยุด เพราะหืนน้ำมันแล้วขม แต่เพื่อนที่ซื้อเขาไม่รู้สึก อันนี้ต้องฝึกระบบประสาทการรับรู้ให้ไวหน่อย หัดสังเกตุรส และดมกลิ่นให้ดี
หากน้ำมันมีลักษณะหนืดๆ ทอดสักครู่แล้วเกิดฟองเดือด และเกิดควันดำ สัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าน้ำมัน มีอันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะหากมีการเติมน้ำมันใหม่เข้าไปจะยิ่งเป็นผลร้าย ซึ่งอันนี้แม่ค้ามักนิยมทำ โดยพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ทราบถึงอันตราย
ภาพจาก women.sanook.com
ผลต่อสุขภาพทั้งครอบครัว
ขณะที่ในบ้านบางครั้งเราใช้น้ำมันทอดของแล้วยังเสียดายเทรวมเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปและต่อไป ลองเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่นะคะ เพราะ
การบริโภคอาหารจากน้ำมันทอดซ้ำไม่เพียงแต่จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ความดันโลหิต หลอดเลือดหัวใจเฉพาะผู้ทานเท่านั้น..
แต่ยังมีอันตรายที่ต้องสูดดมไอน้ำมันทอดซ้ำด้วยเช่นกัน โดยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งจากการตรวจสุขภาพแม่บ้านซึ่งปรุงอาหาร พบว่า เป็นมะเร็งปอดสูงมาก และมีการสืบสาเหตุพบว่า มีการปรุงอาหารที่ใช้น้ำมันมาก โดยไม่มีประวัติว่ามีการสูบบุหรี่แต่อย่างใด
ล่าสุดประเทศไต้หวันได้ออกกฎหมายไม่ให้ใช้น้ำมันทอดซ้ำ เพื่อป้องกันสุขภาพของผู้ปรุงอาหารจากอันตรายของไอของน้ำมันทอดซ้ำ ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างเห็นได้ชัด (หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2551)
และแน่นอนของไทยเรายังไม่มีการขยับในเรื่องนี้ ได้แต่ออกมาเตือนตามกระแส แล้วก็เงียบ คงต้องเป็นชาวเรา และคุณครู อาจารย์ ทั้งหลายที่ต้องช่วยกันบอกต่อและสอนเด็กให้เขาไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง
ข้อเตือนอันตราย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนประชาชนว่า อย่าซื้อน้ำมันที่ใส่ถุงพลาสติก ที่ไม่บอกที่มา เพราะอาจเป็นน้ำมันเก่าเสื่อมสภาพที่นำไปฟอกสีให้ใสแล้วนำกลับมาหลอกขายอีกครั้ง ผู้ประกอบการบางรายนำสารเคมีบางชนิดที่เติมเข้าไปในน้ำมันแล้วทำให้ค่าโพลาร์อยู่ในระดับต่ำเป็นวงจรที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ
และเตือนประชาชนให้สังเกตน้ำมันในตลาดด้วยว่า หากน้ำมันมีลักษณะหนืด ทอดแล้วเกิดฟองเดือดและเกิดควันดำ สัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าน้ำมันมีค่าโพลาร์สูงถึงระดับ 40 จะเป็นอันตรายมาก ๆ
และเตือนประชาชนให้สังเกตน้ำมันในตลาดด้วยว่า หากน้ำมันมีลักษณะหนืด ทอดแล้วเกิดฟองเดือดและเกิดควันดำ สัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าน้ำมันมีค่าโพลาร์สูงถึงระดับ 40 จะเป็นอันตรายมาก ๆ
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่เข้าใจ เตือนแบบนี้ประชาชนที่กล่าวถึง ชาวบ้าน แม่ค้ากี่คน ที่จะรู้ว่าค่าโพลาร์คืออะไร แล้วมันเกี่ยวข้องกับอะไร อันตรายต่อสุขภาพอย่างไร
ติดตามตอนที่ 2 นะคะ :) :)