Saturday 10 November 2012

อารมณ์ ก่อเกิดโรค


 

 
ไม่มีใครอยากเจ็บป่วย และไม่ชอบหาหมอ ทานยา หรือเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆใช่ไหมคะ อ่านเรื่องนี้แล้วลองปฏิบัติดู จะช่วยป้องกันโรคได้ดีไม่เสียเงินอีกต่างหาก

โรคเราที่เป็นกันทุกวันนี้มี 2 กลุ่มใหญ่คือ

                    โรคที่เกิดจากเชื้อโรคเช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา เช่น หวัด คางทูม วัณโรค ตับอักเสบ เป็นต้น และ

                   โรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค เรียกว่า โรคแห่งความเสื่อม (Degenerative diseases) เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน หัวใจ เกาต์  ฯลฯ

เปลี่ยนอารมณ์โกรธ ลดโรคร้าย
 

                   อารมณ์เสีย หงุดหงิด รำคาญ วิตก กังวล ห่อเหี่ยว หดหู่ น้อยใจ เสียใจ แค้นใจ ขัดเคืองใจ โกรธ อิจฉาริษยา พยาบาท อยากไปหมด อยากมี อยากได้ อยากเป็น ฯลฯ ล้วนเป็นอารมณ์ด้านลบที่ทำให้สุขภาพทรุดโทรม เจ็บไข้ได้ป่วย ทำให้เกิดโรคแห่งความเสื่อมทั้งหลาย

เมื่อเราเกิดความเครียด ต่อมหมวกไตจะขับฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวร้าย สังเกตเวลาโมโห ผิดหวัง หรือโกรธเกลียดใครมากๆ หัวใจจะเต้นตุบๆตับๆ เร็วรัว บางครั้งหายใจไม่ออก หน้ามืด ยิ่งคนที่เป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบตัน ถ้าเกิดอารมณ์รุนแรง ฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งออกมามาก ก็จะตายเร็ว หรืออาจเสียชีวิตทันที ถ้าเครียดบ่อยๆ ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งบ่อย ๆ ต่อมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานและเม็ดเลือดขาว เช่น ต่อมทอนซิล ต่อมไทมัส ฯลฯ จะฝ่อ ภูมิต้านทานจะลดลงเพราะฉะนั้นใครอารมณ์ร้าย อารมณ์เสียบ่อย ยิ้มไม่เป็น เครียด โกรธเกลียดง่าย อยากได้อยากเป็นคิดแข่งขันตลอดเวลา อิจฉาตาร้อน หงุดหงิดบ่อย ๆ อะดรีนาลีนจะหลั่งมากขึ้น ภูมิต้านทานลด เจ็บป่วยง่าย อายุจะสั้น

                   ดังนั้น การรู้เท่าทันอารมณ์ ประคองจิตใจ เข้าใจ รู้แพ้ชนะ ให้อภัย ปล่อยวางบ้าง ทำให้เราเริ่มต้นมีสุขภาพที่ดีได้

                   ในแต่ละวันไม่ต้องคิดเปลี่ยนแปลงผู้อื่น เพื่อความสบายของเรา แต่จงเปลี่ยนแปลงตัวเราให้ สบายใจให้ได้ เพราะเพียงแต่คิดจะทำร้ายบุคคลอื่น ความโกรธก็ชิงลงมือทำร้ายเราก่อนแล้ว เป็นการบั่นทอนสุขภาพตัวเองที่ไม่คุ้มค่าเลย บางครั้งผู้ที่ผูกโกรธแค้นอาฆาต ไม่มีสักรายเดียวที่จะนอนหลับเป็นสุข ดังนั้น บุญต้องทดแทน แค้นต้องอภัย ทุกอย่างเกิดกับเราย่อมมีที่มาที่ไปไม่มีอะไรเกิดโดยบังเอิญ
 
 
สัตว์โลกเมื่อเกิดมา ย่อมนำความทุกข์ติดตัวมาด้วย ตราบใดที่เขายังไม่สลัดความพอใจในสังขารออก ความทุกข์ก็ย่อมติดตามไปเสมอ เหมือนโคที่ยังมีแอกเกวียนครอบคออยู่ล้อเกวียนย่อมติดตามไปทุกฝีก้าว
 
"จิตที่คิดดี นำสุขมาให้"

                   ทุกคนคงเคยได้ยินคำกล่าวข้างต้น ถ้าเรามองโลกในแง่บวก คิดดี ทำดี หรือว่าทำสมาธิได้ จิตจะสั่งงานสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ให้หลั่ง GHRF (Growth hormone release factor) ออกมา ฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นต่อมใต้สมอง ให้ขับฮอร์โมนโกรต (Growth hormone) ออกมากระตุ้นต่อมที่สร้างเม็ดเลือดขาวให้ทำงานเต็มที่เพื่อสร้างเม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนเป็นทหารต่อสู้สิ่งแปลกปลอมในร่างกายเราขึ้นมา

                   ถ้าท่านมีความสุข สงบ เกิดปิติ ต่อมไพเนียล (Pineal gland) ในสมองก็จะขับฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา ฮอร์โมนนี้เป็นยาระงับปวดที่ดีที่สุด ประสิทธิภาพดีกว่ามอร์ฟีนถึง 250 เท่า สังเกตดูว่าเวลาเราหัวเราะ อารมณ์ดีหรือมีความสุข จะหายเจ็บปวด ก็เพราะฮอร์โมนตัวนี้ดังนั้นหากใครอารมณ์ดี เยือกเย็น เมตตา แจ่มใส ทำสมาธิได้ มีความสุข ฮอร์โมนโกรตหลั่ง เอนดอร์ฟินหลั่งออกมาเรื่อย ๆ ภูมิต้านทานจะดี สดใส อายุก็จะยืน

รู้อย่างนี้แล้ว..... ท่านก็ลองไปตรองดูว่า เราจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง ที่จะให้มีสติเพื่อประคับประคองรู้เท่าทันอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ ฝึกจิตตนให้สงบนิ่ง ...เพียงแค่นี้ สุขภาพก็จะดีได้นานๆ ที่สำคัญผลพลอยได้คือแก่ช้าอีกต่างหาก ไม่ต้องเปลืองเงินเข้าสถานเสริมความงามต่างๆอีก  หุ หุ :)
 
 
    อ้างอิง http://learners.in.th /